Phil Foden จากวันเดอร์คิดสู่เสาหลักเรือใบสีฟ้าและทีมชาติอังกฤษ

Browse By

ถ้าพูดถึงกองกลาง–ตัวรุกสไตล์ “ครบเครื่องทั้งจ่าย ทั้งยิง ทั้งวิ่ง ทั้งเพรส” ชื่อของ Phil Foden ต้องติดอันดับต้น ๆ ของโลกยุคนี้แบบหลีกไม่พ้น จากเด็กสต็อกพอร์ตที่เติบโตมากับอะคาเดมี่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายมาเป็นเสาหลักของทีมชุดทริปเปิลแชมป์ และหัวใจบุกทีมชาติอังกฤษในหลายทัวร์นาเมนต์ใหญ่ การเดินทางของเขาเป็นตัวอย่างชัด ๆ ว่า “เด็กปั้นสโมสร” ยังมีอยู่จริง และถ้าได้รับการโค้ชถูกที่ถูกเวลา ผลลัพธ์มันโหดจนเกมฟุตบอลกลายเป็นเหมือนโหมด Career ในเกมเลยทีเดียว

แน่นอนว่าเมื่อเราพูดถึงสตาร์ระดับ ฟิล โฟเดน แฟนบอลหลายคนไม่ได้แค่ดูบอลแล้วจบ แต่ชอบลุ้นต่อในโลกเดิมพันด้วย ถ้าใครอยากตามเชียร์แมนฯ ซิตี้หรืออังกฤษแบบอินขั้นสุด การมองหาช่องทางเล่นที่ไว้ใจได้สักที่ เช่นกดเข้าไปดูผ่านลิงก์อย่าง ทางเข้า UFABET ล่าสุด ก็เป็นอีกมิติหนึ่งของการเสพเกมฟุตบอล แต่ไม่ว่าจะเชียร์อย่างเดียวหรือเชียร์พร้อมลุ้น เราขอพาไปไล่ตั้งแต่ชีวิตเด็กมัธยมยันจอมทัพพรีเมียร์ลีกของเขากันแบบละเอียด ๆ


ภูมิหลังและชีวิตเด็กสต็อกพอร์ตของ Phil Foden

เด็กชายที่โตมากับสีฟ้าเพียว ๆ

Phil Foden หรือชื่อเต็มว่า Philip Walter Foden เกิดวันที่ 28 พฤษภาคม 2000 ที่สต็อกพอร์ต แถบเกรตเตอร์แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษพูดง่าย ๆ คือ “เด็กเมือง” ของแมนฯ ซิตี้ แบบแท้ ๆ ไม่ใช่เด็กต่างถิ่นมาทีหลัง ใครที่เคยดูคลิปสัมภาษณ์เก่า ๆ จะเห็นบ่อยว่าเขาพูดตรง ๆ ว่าโตมาด้วยการเป็นแฟนซิตี้ตั้งแต่จำความได้

ครอบครัวของเขาไม่ได้มาจากสายบอลมืออาชีพ แต่สนับสนุนให้เล่นฟุตบอลเต็มที่ตั้งแต่ยังเล็ก ฟีลเด็กบ้านเราเตะบอลหลังโรงเรียน แต่ของเขาคือเตะไปเตะมา โดนแมวมองแมนฯ ซิตี้เก็บเข้าระบบตั้งแต่อายุน่าจะประมาณ 4–5 ขวบ ก่อนจะเซ็นเป็นเด็กอะคาเดมี่เต็มตัวในเวลาต่อมา

เข้าสู่ระบบอะคาเดมี่แมนเชสเตอร์ ซิตี้

Foden เข้าอะคาเดมี่ซิตี้ตั้งแต่ระดับ U9 และไต่ระดับขึ้นมาทุกชุดเยาวชน สโมสรให้ความสำคัญกับเขามากจนถึงขั้นส่งเข้าเรียนโรงเรียนเอกชนชื่อดังอย่าง St Bede’s College โดยสโมสรเป็นคนช่วยแบกรับค่าใช้จ่าย เพื่อให้เขาโฟกัสฟุตบอลได้เต็ม ๆ

สไตล์การเล่นตอนเด็ก ๆ ก็ชัดแล้วว่าเป็น “เพลย์เมกเกอร์ตัวเล็กเท้าซ้าย” ที่ทักษะเหนือเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน เหมือนดูเด็ก ม.ต้นแต่อยู่ ๆ ก็โผล่มาเล่นกับรุ่นมหาลัยแล้วไม่เขิน ไม่ใช่แค่จ่ายบอลดี แต่ยังมีความกล้าเล่น กล้าเลี้ยงผ่านคู่แข่งแคบ ๆ ซึ่งเป็นดีเอ็นเอที่เราเห็นจนถึงทุกวันนี้

จุดเด่นที่โค้ชเยาวชนเห็นตั้งแต่แรก ๆ

โค้ชในอะคาเดมี่มักพูดตรงกันว่า สิ่งที่ทำให้ ฟิล โฟเดน โดดเด่นกว่าคนอื่นไม่ใช่แค่เทคนิค แต่คือ “วิธีคิด” เวลาเล่นบอล เขามักหันหัวขึ้นมองหาพื้นที่ว่างก่อนรับบอลเสมอ การหันตัวกึ่ง ๆ ¾ body shape ทำให้สามารถเล่นบอลจังหวะเดียวหรือแตะไปอีกฝั่งของสนามได้ทันที

สำหรับเด็กอายุไม่ถึง 15 ที่เล่นแบบนี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แปลกที่สโมสรจะมองว่าเขาไม่ใช่แค่เด็กเก่ง แต่เป็น “โปรเจกต์ระยะยาวระดับทีมชุดใหญ่”


เส้นทางสู่ทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

การระเบิดบนเวทีทีมชาติชุดเล็ก

จุดที่ทำให้โลกเริ่มรู้จักชื่อ ฟิล โฟเดน จริง ๆ ไม่ใช่แค่ในอังกฤษ แต่คือทัวร์นาเมนต์ FIFA U-17 World Cup 2017 ที่อังกฤษคว้าแชมป์โลก ยู-17 มาครองได้สำเร็จ เขายิงสองประตูในนัดชิงชนะเลิศกับสเปนและคว้ารางวัล Golden Ball หรือผู้เล่นยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ไปครอง

จากทัวร์นาเมนต์นั้น ทุกคนเริ่มเรียกเขาว่า “วันเดอร์คิด” แบบเต็มปากเต็มคำ เพราะไม่ได้แค่เด่นในทีม แต่เด่นในระดับเวทีโลกของนักเตะอายุต่ำกว่า 17 ปี

เดบิวต์กับทีมชุดใหญ่ของแมนฯ ซิตี้

ในระดับสโมสร Foden ถูกเป๊ป กวาร์ดิโอลา ดันขึ้นมาอยู่ในขอบเขตทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ฤดูกาล 2016–17 และได้ลงสนามจริงจังในฤดูกาล 2017–18 เขากลายเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ได้เล่นในทีมระดับลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างต่อเนื่อง แถมยังได้แชมป์ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ชนิดที่นักเตะบางคนเล่นทั้งชีวิตยังแตะถ้วยไม่ถึงแบบเขา

ช่วงปี 2017 เขายังได้รับรางวัล BBC Young Sports Personality of the Year จากผลงานทั้งในสโมสรและทีมชาติชุดเล็กอีกด้วย

เรียนรู้จากเดวิด ซิลบา และเดอ บรอยน์

จุดเด่นอีกอย่างของเขาคือ “โรงเรียนฟุตบอล” ที่เติบโตขึ้นมา เขาไม่ได้ถูกปั้นให้เป็นตัวความหวังทีมเล็ก ๆ แต่ได้เรียนรู้จากไอดอลอย่าง David Silva และ Kevin De Bruyne แบบใกล้ชิดทุกวัน

  • จากซิลบา เขาได้เรื่องการหาพื้นที่ว่าง การเล่นบอลสั้น การหมุนตัวหนีคู่แข่ง
  • จากเดอ บรอยน์ เขาได้เรื่องการจ่ายบอลทะลุช่องจังหวะเดียว การยิงไกล และการเล่นสปีดสูง

รวม ๆ แล้วนี่คือสูตรผสมที่ทำให้ Foden กลายเป็นกองกลางตัวรุกสมัยใหม่ที่ “ครบเครื่อง” แทบจะทุกมิติ


ก้าวผ่านจากซูเปอร์ซับสู่คีย์แมนของซิตี้

ช่วงเริ่มต้น: บทบาทตัวหมุน แต่ไม่ใช่ตัวหลัก

ในช่วงฤดูกาลแรก ๆ ฟิล โฟเดน มักจะอยู่ในบทบาทซูเปอร์ซับ ลงมาเปลี่ยนเกมท้ายครึ่งหลัง หรือหมุนเวียนในบอลถ้วยอย่าง EFL Cup และ FA Cup การได้ลงเล่นไม่น้อยแต่ก็ยังไม่มากพอที่จะเรียกว่าตัวหลัก

อย่างไรก็ตาม สถิติที่น่าสนใจคือ เขามักจะมีส่วนกับประตูเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการยิงเองหรือแอสซิสต์ต่อเกมเมื่อเทียบจำนวนเวลาในสนาม ถือว่าค่อนข้างสูง

สำหรับแฟนบอลที่ชอบตามเชียร์หรือเล่นสายสถิติเดิมพัน การมีนักเตะประเภท “ลงแล้วมีโอกาสยิง/แอสซิสต์สูง” อย่าง Foden นี่แหละ ที่ทำให้หลายคนชอบใช้ข้อมูลเขาเป็นองค์ประกอบเวลาเล่นบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ใครที่คิดแนวนี้อยู่ก็สามารถมองหาช่องทางเริ่มต้นอย่าง สมัคร UFABET เพื่อเปิดยูสแล้วไปปรับใช้สไตล์การวิเคราะห์ของตัวเองได้ (แต่จำไว้เสมอว่า เล่นแบบมีสติสำคัญสุดนะ)

จุดเปลี่ยน: ฤดูกาล 2020–21 และรางวัลดาวรุ่ง

ฤดูกาล 2020–21 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เขาเริ่มได้รับโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอในพรีเมียร์ลีกและยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ทั้งในตำแหน่งปีกขวา, กองกลางตัวรุก และบางนัดก็เล่นเป็น false 9

ผลงานในปีนั้นทำให้เขาคว้ารางวัล

  • Premier League Young Player of the Season
  • PFA Young Player of the Year

สองปีติด (2021 และ 2022) ยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นแค่ดาวรุ่ง แต่เป็นกำลังหลักของยุคใหม่ของแมนฯ ซิตี้จริง ๆ

ปีแห่งการพิสูจน์ตัวเอง: ทริปเปิลแชมป์ 2022–23

ฤดูกาล 2022–23 แมนฯ ซิตี้สร้างประวัติศาสตร์คว้าทริปเปิลแชมป์ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ซึ่ง ฟิล โฟเดน ก็เป็นส่วนสำคัญทั้งในฐานะตัวจริงและตัวหมุนเวียนในแนวรุกของทีม เขาทำประตูและแอสซิสต์ในหลายเกมสำคัญ รวมถึงเกมยุโรปที่ต้องใช้ความละเอียดและความนิ่งระดับสูง

แม้สปอตไลต์จะมักไปอยู่กับ Erling Haaland หรือ Kevin De Bruyne แต่ในแง่ความต่อเนื่องและการทำงานเบื้องหลัง Foden คือคนที่ช่วยประคองบล็อกเกมรุกให้เดินไปข้างหน้าอย่างลื่นไหล

มอนสเตอร์โหมด: ฤดูกาล 2023–24

ปี 2023–24 คือฤดูกาลที่ ฟิล โฟเดน เปิด “โหมดเทพ” อย่างแท้จริง เขายกระดับตัวเองจาก “วันเดอร์คิด” ไปสู่ “ตัวแบกระดับโลก” ด้วยจำนวนประตูและแอสซิสต์ที่มากที่สุดในอาชีพของเขาจนถึงตอนนั้น

  • ลงเล่น 53 นัด ยิง 27 ประตู และแอสซิสต์ราว 12 ครั้งในทุกรายการ
  • ยิง 19 ประตูในพรีเมียร์ลีก กลายเป็นหนึ่งในดาวซัลโวสูงสุดของลีกฤดูกาลนั้น
  • พาแมนฯ ซิตี้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยติด และตัวเขาเองกลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่มีแชมป์พรีเมียร์ลีกในมือถึง 6 สมัย

ผลงานระดับนี้ทำให้เขาคว้า

  • Premier League Player of the Season
  • PFA Players’ Player of the Year (นักเตะยอดเยี่ยมที่โหวตโดยเพื่อนนักเตะ)

พูดง่าย ๆ คือ ปีนั้นเขาไม่ได้เป็นแค่ “เด็กเก่งของซิตี้” แต่กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกจริง ๆ


สไตล์การเล่นของ Phil Foden แบบเจาะลึก

ถ้าให้จับภาพรวมแบบภาษาบ้าน ๆ ฟิล โฟเดน คือส่วนผสมของ

  • ความลื่นไหลแบบ David Silva
  • ความดุดันในการยิงประตูแบบ De Bruyne
  • ความคล่องตัวเลี้ยงกินตัวแบบปีกสมัยใหม่

แถมยังรันได้ทั้ง 90 นาทีแบบไม่มีท่าทีจะหมดง่าย ๆ ด้วย

โปรไฟล์เชิงเทคนิค

  • เท้าถนัด: ซ้าย แต่สามารถใช้ขวาได้ดีพอสมควร
  • จุดเด่น: จับบอลแรกเนียน, คอนโทรลในพื้นที่แคบ, เปลี่ยนทิศทางเร็ว, จ่ายบอลคิลเลอร์พาส, สับไกลนอกกรอบ
  • จุดรองลงมาแต่สำคัญ: การเพรสซิ่ง, การตัดบอลจากแดนบน, การเล่นร่วมกับเพื่อนในแท็กติก pressing trap

เวลาเขารับบอลในพื้นที่แนวในระหว่างไลน์กองกลางกับกองหลังคู่แข่ง สิ่งที่ทำให้เขาอันตรายคือ

  1. สามารถหมุนตัวหันหน้าเข้าหาประตูได้เร็ว
  2. มีทางเลือกจ่ายทะลุช่อง (ให้กองหน้า) หรือยิงเอง
  3. ถ้าคู่แข่งไม่เข้าหนัก จะค่อย ๆ เลื้อยเข้าไปลุ้นจบด้วยตัวเอง

การเคลื่อนที่และหาพื้นที่

หนึ่งในสิ่งที่ Pep มักชม Foden คือ “intelligence” ในการหาพื้นที่ เขาไม่ใช่ปีกที่ยืนรอบอลริมเส้นอย่างเดียว แต่จะสลับเข้ามาเล่น zone 14 (หน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง) อยู่บ่อย ๆ ทำให้แนวรับคู่แข่งงงว่าจะตามแบบแมน–ทู–แมน หรือปล่อยให้โซนกลางจัดการ

การวิ่งตัดจากริมเส้นเข้ากลาง (inverted run) ของเขา ยังเปิดพื้นที่ให้ฟูลแบ็กอย่าง Kyle Walker หรือแบ็กที่ดันสูงเติมขึ้นมาได้ง่ายขึ้นด้วย

การจบสกอร์และการสร้างโอกาส

แต่ก่อนคนจะรู้สึกว่า Foden คือ “ตัวทำเกม” มากกว่าตัวจบสกอร์ แต่หลังจากฤดูกาล 2022–23 เป็นต้นมา เราเริ่มเห็นว่าเขามีสัญชาตญาณหน้าเป้ามากกว่าที่คิด

  • ยิงได้ทั้งในกรอบและนอกกรอบ
  • ลูกยิงปั่นโค้งเสาสองมีให้เห็นเรื่อย ๆ
  • ลูกยิงตามน้ำจังหวะเดียวในกรอบสไตล์กองหน้าก็ทำได้ดี

การเป็นคนที่ทั้งสร้างโอกาสและจบเองได้ ทำให้เขากลายเป็น “ภัยคุกคามสองชั้น” ต่อแนวรับคู่แข่ง

บทบาทในระบบของเป๊ป

สิ่งที่ทำให้ Phil Foden น่าสนใจสำหรับโค้ชทุกคนคือ “ความยืดหยุ่นทางแท็กติก”

เป๊ปเคยใช้เขาในตำแหน่งต่าง ๆ เช่น

  • ปีกขวา (RW) – ขยับเข้าในหาช่องยิง
  • ปีกซ้าย (LW) – เล่นคล้าย inside forward ตัดเข้าในเพื่อยิงด้วยซ้าย
  • กองกลางตัวรุก (AM / No.10) – ยืนระหว่างไลน์รับ–กลางคู่แข่ง
  • “8 ขยับสูง” – เหมือนเล่นเป็น box-to-box ที่เน้นบุก
  • False 9 – จังหวะที่ไม่มีหน้าเป้าจริงในสนาม

นักเตะที่เล่นได้หลากหลายขนาดนี้ถือเป็นทองของโค้ช เพราะทำให้ระบบทีมปรับได้ตามคู่แข่งตลอดทั้งฤดูกาล


บทบาทในทีมชาติอังกฤษ

แม้ Phil Foden จะเปรี้ยงปร้างสุดกับแมนฯ ซิตี้ แต่เส้นทางในทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ของเขา ก็มีทั้งช่วงพีกและช่วงขึ้น ๆ ลง ๆ

จากฮีโร่ U17 สู่ทีมชุดใหญ่

อย่างที่เล่าไป เขาคือคนสำคัญในทีมชาติอังกฤษชุด U17 ที่คว้าแชมป์โลกปี 2017 พร้อมคว้า Golden Ball มาครอง ทำให้ถูกจับตามองว่าอาจเป็น “ตัวรุกหมายเลข 10” ของทีมชาติในอนาคต

ในทีมชุดใหญ่ เขาเริ่มแจ้งเกิดช่วงปี 2020 เป็นต้นมา โดยยิงสองประตูในเกมพบไอซ์แลนด์ใน UEFA Nations League และกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกหลักของ Gareth Southgate ในแนวรุก

ยูโร 2020 และฟุตบอลโลก 2022

ในศึก UEFA Euro 2020 เขามีส่วนร่วมในทัวร์นาเมนต์ที่อังกฤษไปไกลถึงนัดชิงชนะเลิศ แม้จะไม่ได้เป็นตัวเด่นสุด แต่ก็เป็นหนึ่งในหมากรุกสำคัญที่ช่วยสร้างความหลากหลายให้เกมบุก

ฟอร์มในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ เขาสามารถยิงประตูและทำแอสซิสต์สำคัญในรอบแบ่งกลุ่ม เช่น เกมเจอเวลส์และเซเนกัล ซึ่งช่วยเพิ่มเครดิตให้เขาในสายตาแฟนทีมชาติว่าคือหนึ่งในตัวรุกที่ไว้ใจได้เวลาเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่

ยูโร 2024 และความคาดหวังต่อไป

ในศึกยูโร 2024 เขาถูกใช้งานในหลายบทบาท ทั้งริมเส้นและตัวรุกกึ่งกลางสนาม แม้ผลงานทีมชาติอังกฤษจะยังไม่ถึงดวงดาวระดับแชมป์ยุโรป แต่การมี Foden อยู่ในโครงสร้างทีม ทำให้หลายคนมองว่า “ถ้าวันหนึ่งอังกฤษจะได้ถ้วยใหญ่จริง ๆ เขาต้องมีส่วนสำคัญแน่นอน”


เกียรติยศและสถิติสำคัญของ Phil Foden

ลองสรุปเกียรติยศหลัก ๆ ที่ Foden กวาดมาได้ตั้งแต่อายุยังไม่ทันแตะ 30 ปี (และบางอย่างได้ตั้งแต่ยังไม่ถึง 21 ด้วยซ้ำ)

ระดับสโมสรกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้

เขาคว้าแชมป์กับซิตี้มากมาย รวมถึง

  • พรีเมียร์ลีก หลายสมัยติด (รวมแล้ว 6 หน ณ ช่วงกลางทศวรรษ 2020s)
  • เอฟเอ คัพ
  • ลีก คัพ (EFL Cup) หลายสมัย
  • ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก (ทริปเปิลแชมป์ 2022–23)
  • ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ
  • ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ

จำนวนถ้วยทั้งหมดระดับสโมสรแตะหลัก “สิบกว่าถึงยี่สิบรายการ” ตั้งแต่อายุยังไม่แตะ 30 ปี เป็นตัวเลขที่โหดมากสำหรับอาชีพนักเตะคนหนึ่ง

ระดับทีมชาติ

  • แชมป์โลก U17 ปี 2017 พร้อมรางวัล Golden Ball
  • รองแชมป์ยูโร 2020 และ 2024 กับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่

รางวัลส่วนตัวเด่น ๆ

  • FIFA U-17 World Cup Golden Ball – 2017
  • Premier League Young Player of the Season – 2020–21, 2021–22
  • PFA Young Player of the Year – 2020–21, 2021–22
  • Premier League Player of the Season – 2023–24
  • PFA Players’ Player of the Year – 2023–24

ตารางสรุปภาพรวม Phil Foden แบบย่อ

ตัวเลขบางรายการเป็นการสรุมภาพรวมเชิงประมาณการเพื่อให้เข้าใจโปรไฟล์ โดยไม่ลงดีเทลทุกนัดทุกฤดูกาล

หมวดข้อมูลโดยรวม
ชื่อเต็มPhilip Walter Foden
วันเกิด / สถานที่28 พฤษภาคม 2000 – สต็อกพอร์ต อังกฤษ
ส่วนสูงประมาณ 1.70–1.71 เมตร
สโมสรปัจจุบันแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เด็กปั้นอะคาเดมี่ ตั้งแต่ระดับ U9)
ตำแหน่งหลักกองกลางตัวรุก / ปีกซ้าย / ปีกขวา / False 9
จุดเด่นเทคนิคในพื้นที่แคบ, การสร้างสรรค์โอกาส, การหาพื้นที่, การจบสกอร์
แชมป์สำคัญกับสโมสรพรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก, คลับ เวิลด์ คัพ
รางวัลเด่นส่วนตัวPremier League Player of the Season, PFA Players’ Player of the Year, FIFA U-17 Golden Ball

ภาพลักษณ์นอกสนามและบุคลิกของ Phil Foden

เด็กบ้าน ๆ ที่โตมาในยุคซูเปอร์สตาร์

ถึงจะเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก แต่ภาพของ Phil Foden กลับไม่ใช่สายลุคเซเลบจ๋าเท่าไหร่ เขายังคงสไตล์ “เด็กบ้าน ๆ เมืองแมนเชสเตอร์” ที่รักครอบครัว ใช้เวลาอยู่นอกสนามกับคนใกล้ตัว

มีช่วงหนึ่งที่เขาเคยมีข่าวนอกสนามบ้างตามสไตล์นักเตะรุ่นใหม่ แต่โดยรวมแล้วภาพจำของเขายังเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยสร้างดราม่าผ่านสื่อมากนัก โฟกัสอยู่กับฟุตบอลเป็นหลัก

ความเป็น “เด็กอะคาเดมี่” ที่แฟนซิตี้ผูกพัน

สำหรับแฟนแมนฯ ซิตี้ Phil Foden ไม่ใช่แค่ “นักเตะเก่ง” แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อว่า

“อะคาเดมี่ของสโมสรสามารถปั้นคนขึ้นมาเป็นระดับโลกได้จริง ๆ”

การที่เขาเป็น “เด็กซิตี้ตั้งแต่เกิด” ทำให้ทุกประตูที่เขายิงในเอติฮัด สเตเดี้ยม มีความรู้สึกต่างจากนักเตะที่ซื้อเข้ามาเสริมทีม มันเหมือนเห็นเด็กข้างบ้านโตไปเป็นฮีโร่ของเมืองทั้งเมือง


Phil Foden ในมุมมองแท็กติกและอนาคตข้างหน้า

เขาคือหมายเลขอะไรแน่?

คำถามคลาสสิกของแฟนบอลคือ “ตกลง Phil Foden คือเบอร์อะไรในสนาม?”

  • ถ้ามองจากการจบสกอร์ เขาเหมือน inside forward / wide forward
  • ถ้ามองจากการสร้างสรรค์เกม เขาเหมือนเพลย์เมกเกอร์เบอร์ 10
  • ถ้ามองจากตำแหน่งยืนในระบบของเป๊ป เขาเหมือนเบอร์ 8 ที่ดันสูงขึ้นมา

แบบนี้จึงอาจเรียกเขาได้ว่า “Hybrid Attacking Midfielder” หรือกองกลางตัวรุกลูกผสมที่เล่นได้หลายบทบาทพร้อมกัน ขึ้นอยู่กับว่าระบบในวันนั้นต้องการอะไร

การรับไม้ต่อจากเดอ บรอยน์ในระยะยาว

เมื่อ Kevin De Bruyne เริ่มเข้าสู่ช่วงปลายอาชีพ เป็นธรรมดาที่สื่อและแฟนบอลจะมองหา “คนที่จะมารับไม้ต่อในการเป็นคีย์แมนแดนกลาง” และชื่อที่โผล่ขึ้นมาแบบชัด ๆ คือ Phil Foden นี่แหละ

ด้วยวัยที่ยังหนุ่ม บวกกับประสบการณ์ในเกมใหญ่ทั้งพรีเมียร์ลีกและแชมเปียนส์ลีกนับไม่ถ้วน เขามีทั้งเวลาและเวทีที่จะยกระดับตัวเองขึ้นไปแตะระดับตำนานสโมสรได้ ถ้าไม่เจอปัญหาอาการบาดเจ็บรุนแรงยาว ๆ มาขัดจังหวะ

มุมมองของแฟนบอล & โลกของการเดิมพัน

ในมุมแฟนบอลล้วน ๆ การได้ดู Foden เล่นคือความบันเทิงระดับสูง เพราะเขาสามารถสร้างโมเมนต์ “เฮ” ได้ทั้งจากการยิงเองและเซ็ตเพื่อน แต่สำหรับสายที่ชอบวิเคราะห์เกมต่อเพื่อเอาไปเล่นแฟนตาซี หรือเดิมพันในแมตช์ใหญ่ ๆ การทำความเข้าใจโปรไฟล์นักเตะแบบเขาก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจก่อนตัดสินใจได้

บางคนอาจเลือกโฟกัสเกมของแมนฯ ซิตี้หรือทีมชาติอังกฤษ แล้วใช้ข้อมูลสไตล์การเล่นและผลงานของ Foden มาวิเคราะห์คู่กับแท็กติกของคู่แข่ง ก่อนจะเข้าไปลุยบนแพลตฟอร์มอย่าง ยูฟ่าเบท เพื่อให้การตามเชียร์แต่ละนัดมี “เดิมพันทางอารมณ์” มากขึ้น แต่ไม่ว่าจะเล่นแนวไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรู้ขีดจำกัดของตัวเอง เล่นเท่าที่พร้อมเสียได้ และมองมันเป็นความบันเทิงมากกว่าหนทางรวยทางลัด


FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Phil Foden

ถาม: Phil Foden เล่นตำแหน่งอะไรแน่?
ตอบ: เขาเป็นกองกลางตัวรุก/ตัวรุกริมเส้นที่เล่นได้หลายตำแหน่งมาก ทั้งปีกซ้าย ปีกขวา เพลย์เมกเกอร์ตรงกลาง หรือแม้แต่ False 9 ในบางระบบ จุดเด่นคือไม่ว่าจะถูกวางตรงไหน เขายังสร้างสรรค์โอกาสและจบสกอร์เองได้อยู่ดี


ถาม: จุดเด่นที่สุดของ Phil Foden คืออะไร?
ตอบ: ถ้าต้องเลือกอย่างเดียว หลายคนจะบอกว่าคือ “การเล่นในพื้นที่แคบ” เขาจับบอลแรกดีมาก หมุนตัวหนีคู่แข่งเร็ว และตัดสินใจได้ไวว่าจะจ่ายหรือเลี้ยงต่อ นอกจากนี้ยังมีลูกยิงปั่นโค้งเสาสองที่กลายเป็นเครื่องหมายการค้าไปแล้ว


ถาม: Phil Foden ต่างจาก Jude Bellingham ยังไง?
ตอบ: ทั้งคู่เป็นกองกลางตัวรุกอังกฤษเหมือนกัน แต่โปรไฟล์ต่างกันอยู่พอสมควร Bellingham จะมีความเป็น box-to-box ชัดกว่า เติมเกมจากลึกขึ้นมาทั้งรับและรุก ส่วน Foden จะเน้นเล่นโซนระหว่างกองกลางกับกองหลังคู่แข่ง เป็นเพลย์เมกเกอร์เชิงเทคนิคและตัวจบสกอร์ในพื้นที่สุดท้ายมากกว่า


ถาม: ถ้าจะดูเกมที่เห็นของดีของ Foden ชัด ๆ ควรเริ่มจากแมตช์แบบไหน?
ตอบ: เลือกดูเกม “บิ๊กแมตช์” ที่แมนฯ ซิตี้เจอทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีก หรือเกมยุโรปในรอบน็อกเอาต์ เพราะเวลาเจอเกมที่ต้องใช้ความละเอียดสูง เราจะได้เห็นทั้งทักษะ เทคนิค การหาพื้นที่ และความเยือกเย็นของเขาแบบครบชุด เกมท้ายฤดูกาล 2023–24 หลายแมตช์ก็เป็นตัวอย่างดี ๆ ที่เห็นว่าทำไมเขาถึงได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมลีก


ถาม: Phil Foden ยังถือว่าเป็นวันเดอร์คิดอยู่ไหม?
ตอบ: ณ ปัจจุบัน เขาไม่ใช่ “วันเดอร์คิด” ในความหมายเด็กดาวรุ่งอีกแล้ว แต่ขยับไปสู่สถานะ “สตาร์เต็มตัว” และเริ่มแตะระดับ “จอมทัพของยุค” เรียบร้อยแล้ว คำว่าวันเดอร์คิดตอนนี้เลยกลายเป็นเหมือนชื่อเล่นที่ใช้เรียกความทรงจำช่วงที่เขาแจ้งเกิดมากกว่า


ถาม: อนาคตระยะยาวของ Phil Foden จะไปถึงระดับตำนานได้ไหม?
ตอบ: ถ้าเขารักษาฟอร์มระดับฤดูกาล 2023–24 ต่อเนื่องไปได้อีกหลายปี และพาซิตี้คว้าแชมป์สำคัญเพิ่ม พร้อมกับมีโมเมนต์ใหญ่ ๆ ในทีมชาติอังกฤษ เช่น พาทีมคว้าแชมป์ยุโรปหรือแชมป์โลก สถานะ “ตำนานสโมสร” และ “หนึ่งในกองกลางอังกฤษที่ดีที่สุดตลอดกาล” ก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย


ถาม: แฟนบอลใหม่ที่เพิ่งดูแมนฯ ซิตี้ ถ้าอยากเข้าใจ Foden ต้องโฟกัสอะไรเวลาเชียร์?
ตอบ: ลองจับตาดู “ตำแหน่งยืนก่อนรับบอล” ของเขาเป็นหลัก เราจะเห็นว่าเขาไม่ค่อยยืนติดกองหลังฝ่ายตรงข้าม แต่จะถอยมาอยู่ในช่องว่างเสมอ พอได้บอลแล้วค่อยเล่นหนึ่ง–สองหรือเลี้ยงจี้ หากดูแบบนี้ไปสักพัก คุณจะเริ่มเข้าใจว่าทำไมโค้ชถึงชอบเขามาก


บทส่งท้าย: Phil Foden และเรื่องราวที่ยังเขียนไม่จบ

เมื่อมองย้อนกลับไปจากวันนี้ การเดินทางของ Phil Foden จากเด็กอะคาเดมี่ตัวเล็ก ๆ ที่นั่งอยู่ข้างสนามแชมเปียนส์ลีกในฐานะแค่ “เด็กเก็บบอลหรือตัวสำรองวัยรุ่น” กลายมาเป็นจอมทัพสำคัญของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และหนึ่งในตัวรุกที่โลกต้องจับตา เป็นเรื่องราวที่ทำให้แฟนบอลเชื่อว่า ความฝันแบบ “เด็กท้องถิ่นกลายเป็นฮีโร่สโมสร” ยังมีอยู่จริง

เส้นทางข้างหน้าของเขายังอีกยาว ไม่ว่าจะเป็นการล่าถ้วยยุโรปเพิ่มกับซิตี้ หรือการพยายามพาอังกฤษไปคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ที่คนทั้งประเทศรอมานาน สิ่งหนึ่งที่แทบทุกคนเห็นตรงกันคือ เขายังคงอยู่ในช่วง “ขึ้นเขา” ของอาชีพ ยังไม่ได้เริ่มลงเขาแต่อย่างใด

สำหรับเราในฐานะแฟนบอล แค่ได้เห็น Phil Foden ลงสนาม วิ่งกวาดพื้นที่กลางสนาม เลี้ยงหนีคู่แข่งในกรอบเขตโทษ หรือยิงปั่นโค้งเข้ามุมประตูในเกมใหญ่ ๆ ก็เพียงพอจะทำให้ค่ำคืนฟุตบอลธรรมดากลายเป็นช่วงเวลาที่พิเศษขึ้นมาได้ และถ้าใครอยากเพิ่มระดับความอินของตัวเอง จากแค่การเชียร์หน้าจอให้มีเส้นเรื่องของการลุ้นเดิมพันควบคู่ไปด้วย ก็สามารถใช้ข้อมูล โปรไฟล์ และความเข้าใจในสไตล์ของเขาเป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจเสมอ

สุดท้าย ไม่ว่าคุณจะตามเชียร์ Foden ด้วยเหตุผลไหน จะเพราะรักสโมสร รักทีมชาติ หรือหลงในสกิลเท้าซ้ายที่พลิ้วจนน่าหงุดหงิดสำหรับกองหลัง สิ่งที่สวยงามที่สุดของเรื่องนี้คือ เราทุกคนกำลังได้ดู “ตำนานที่กำลังถูกเขียนแบบเรียลไทม์” และยังมีอีกหลายบทที่รออยู่ให้เราได้เปิดดูไปพร้อมกันในทุกฤดูกาลที่จะมาถึง 💙⚽