ชีวประวัติ Vinícius Júnior คือเส้นทางจากเด็กหนุ่มแห่งเซา โกนซาโล ประเทศบราซิล สู่การเป็นปีกรุ่นใหม่ที่นิยามคำว่า “สปีด+สกิล+คาแร็กเตอร์” ให้ฟุตบอลยุคนี้—เจ้าของสองแชมป์ยุโรปกับเรอัล มาดริด (ยิงประตูชัยนัดชิงปี 2022 และปิดกล่องปี 2024) พร้อมสถานะขวัญใจแฟนบอลทั่วโลกที่เติบโตจากฟลาเมงโกก่อนย้ายสู่ซานติอาโก เบร์นาเบวด้วยค่าตัวระดับตำนานเยาวชนบราซิล
ปล. ระหว่างอ่าน ถ้าอยากลุ้นบอลให้ “มีสี” ขึ้นนิด ลองแวะ ยูฟ่าเบท ระบบออโต้ ฝากถอนไว บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไว้เป็นเพื่อนคู่จอ—กดตอนทีมโปรดกำลังไล่บี้นี่ลุ้นยิ่งกว่าเปิดโหมดอัลติ!
จุดเริ่มต้นที่เซา โกนซาโล: เด็กทะเลาะกับลม แต่ชนะด้วยฝีเท้า
ว่ากันว่าลมทะเลริโอพัดแรง แต่แรงเท้าของวินีจูเนียร์ (ชื่อเต็ม: Vinícius José Paixão de Oliveira Júnior เกิด 12 กรกฎาคม 2000) แรงกว่า—โตมากับบอลข้างถนน ก่อนเข้าสู่ระบบเยาวชน ฟลาเมงโก และไต่ชั้นอย่างรวดเร็วเพราะโดดเด่นทั้งสปีด การเปลี่ยนทิศทาง และการตัดสินใจในจังหวะสุดท้าย อายุยังไม่ครบ 18 ก็กลายเป็นชื่อที่สเกาต์ยุโรปขีดเส้นใต้แล้วขีดอีก (ใช่ครับ ขีดจนปากกาหมึกหมด)
ฟลาเมงโก: โรงเรียนทำมือของปีกสายแดนซ์
ฟลาเมงโกให้เขาเรียนรู้ทั้งแรงกดดันและวิธีรับมือกับเกมใหญ่ เดบิวต์ลีกสูงสุดตั้งแต่วัย 16–17 ปี พร้อมเก็บเลเวลแบบรายวัน—จากคอปา เซาเปาโล U-17, ทีมชาติบราซิลชุดเล็ก จนเป็น “จิวเวล” ตัวท็อปของรุ่น ก่อนที่เรอัล มาดริดจะบุกมาหยิบไปตั้งแต่ยังไม่ 18 เต็ม (และให้กลับไปเก็บนาทีแข้งที่บราซิลชั่วคราว) ภาพวินีในเสื้อแดง-ดำจึงกลายเป็นบทเปิดเรื่องที่อบอุ่นในความทรงจำแฟน ๆ
ดีลเปลี่ยนชีวิต: จากริโอสู่มาดริดด้วยค่าตัวระดับสถิติ
23 พฤษภาคม 2017 เรอัล มาดริดประกาศตกลงคว้าตัววินีจูเนียร์แบบ “ล่วงหน้า” โดยให้ย้ายจริงหลังอายุครบ 18 ในเดือนกรกฎาคม 2018 ค่าตัวรายงานราว €45–46 ล้าน—ตัวเลขที่ทำให้ทั้งยุโรปหันมามองว่าเด็กคนนี้ต้อง “ไม่ธรรมดา” แน่ ๆ (และใช่…ไม่ธรรมดาจริง)
- ย้ายเข้าเบร์นาเบวเต็มตัว กรกฎาคม 2018
- ลงเล่นเกมชุดใหญ่ครั้งแรกดาร์บีมาดริด 29 กันยายน 2018 ก่อนค่อย ๆ เป็นตัวหลักตามไทม์ไลน์นักเตะดาวรุ่งที่ “เติมของ” เร็วผิดคาดของมนุษย์ทั่วไป (แต่อยู่ในมาตรฐานมนุษย์เรอัล มาดริด)
เบร์นาเบวปีแรก ๆ: ฝีเท้าพร้อม ใจพร้อม เหลืออย่างเดียว—จังหวะสุดท้าย
วินีช่วง 2018–2020 อาจโดนล้อเรื่อง “จบสกอร์” บ้าง แต่เขาไม่หนี—ซ้อมหน้าประตูเพิ่ม ปรับไทม์มิงการวิ่งแทงช่อง และทำการบ้านเรื่องช็อตแรกหลังเอาบอลลง (first touch to finish) จนค่อย ๆ กลายเป็นวินีเวอร์ชัน “ตัดเข้าซ้ายแล้ววางมุมไกล” ที่ผู้รักษาประตูกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนพุ่งเซฟ
2021–2022: ปีที่ปะทุ—และประตู “ชิงเจ้ายุโรป” ที่ปารีส
ฤดูกาล 2021/22 คือการก้าวกระโดด—คู่หู เบนเซม่า–วินี กลายเป็นวอลล์เปเปอร์มือถือของมาดริดิสตาทั้งโลก ไฮไลต์สูงสุดคือ นัดชิง UCL 2022 ที่ปารีส พบลิเวอร์พูล: นาทีสำคัญ วินีสอดเข้าเสาไกลแปเงียบแต่เจ็บ พา “ราชันย์ชุดขาว” คว้าเจ้ายุโรปสมัยที่ 14 แบบภาพจำระดับโปสเตอร์ห้องนอน และได้รับการบันทึกว่า “ประตูของวินีทำให้เรอัล มาดริดเป็นแชมป์ยุโรป” อย่างเป็นทางการจาก UEFA เองด้วยนะเออ
ถ้าบอลยุโรปเป็นหนังแอ็กชัน—ช็อตนี้คือฉากจบที่คนทั้งโรงลุกขึ้นยืนปรบมือ (แล้วก็เผลอเลียนแบบท่าเต้นฉลองประตู)
2023–2024: วัยสุกงอม—จากนักเตะไฮไลต์สู่ “ตัวตัดสินเกมใหญ่”
วินีจูเนียร์ไม่ได้ดังเพราะคลิปสั้นอย่างเดียว แต่ดังเพราะเกมใหญ่เขาทำได้จริง—จนถึง นัดชิง UCL 2024 ที่เวมบลีย์ เขาคือคนยิงประตูที่สองนาที 83 ปิดเกม ดอร์ทมุนด์ 2-0 ให้มาดริดผงาดครองสมัยที่ 15 ของยุโรปอย่างเป็นทางการอีกครั้ง (ลายเซ็นความเยือกเย็นยังอยู่ครบ)
- ในมุมสถิติสะสมของสโมสร ณ 12 ก.ค. 2025 (วันเกิดครบ 25) เว็บไซต์ทางการเรอัล มาดริดสรุปว่า วินีลงเล่นให้สโมสร 322 นัด ยิง 106 ประตู—ตัวเลขที่บอกชัดว่าเขาไม่ได้เป็นแค่ “สายลากเลื้อย” แต่เป็น “สายปิดงาน” เต็มตัวแล้วด้วย
ทีมชาติบราซิล: จากสำรองนัดชิงโคปา 2021 สู่ผู้ทำประตูบอลโลก
เส้นทางทีมชาติของวินีเริ่มจริง ๆ ปี 2019 จากนั้นติดโผ โคปา อเมริกา 2021 (แพ้อาร์เจนตินาในนัดชิง) จนมาถึง ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์—แมตช์ไฮไลต์คือรอบ 16 ทีม บราซิล 4-1 เกาหลีใต้ เขาเป็นคนปลดล็อกด้วยประตูเปิดหัว (นาที 7) แบบหายใจช้าลงครึ่งจังหวะก่อนวางเท้า ส่งประเทศทั้งประเทศเปิดโหมดแซมบ้ากลางค่ำคืน และนั่นคือประตูเวิลด์คัพลูกแรกของเขากับทีมชาติชุดใหญ่ด้วย
ดีใจได้อีกนาน: สัญญา—เงื่อนไข—และอนาคต
ปลาย ต.ค. 2023 เรอัล มาดริดประกาศต่อสัญญาวินีถึง ปี 2027 พร้อมค่าฉีกสัญญาที่สื่อยืนยันว่าอยู่ระดับ €1,000,000,000 (ใช่ครับ—หนึ่งพันล้านยูโร ตัวเลขไม่ติดคีย์ 0 เกิน) เพื่อยืนยันว่าคนนี้คือเสาหลักระยะยาวของสโมสร ไม่ว่าข่าวลือจะโผล่มุมไหนก็ตาม
โปรไฟล์การเล่น: “สปีด+ทิศทาง+ใจนิ่ง” คือสูตรลับที่อ่านง่ายแต่ทำยาก
วินีคือปีกซ้ายที่ ทิ้งหลังแนวรับเก่ง เป็นพิเศษ—การสับขาซ้อนจังหวะ (double-move) ของเขาทำกองหลังหลุดบาลานซ์แบบไม่รู้ตัว พอเปิดช่องได้จะตัดเข้าเท้าขวาหรือไหลให้เพื่อนตามไดนามิกของเกม ไม่ใช่แค่ “ลากไปยิง” อย่างเดียว
3 นิสัยในสนามที่ทำให้เขา “ต่าง”
- จังหวะสองหลังรับบอล — รับแล้ว “แตะจัดระยะ” ครึ่งก้าวก่อนเลือกยิง/จ่าย ทำให้ช็อตต่อเนื่องลื่นไหล
- การเปลี่ยนสปีดสั้น ๆ — จากยืนกับที่สู่สปีด 100% ภายในสองก้าว (สตาร์ทติดเท้ากว่าเครื่องไฮบริด)
- การยืนกว้างจนกองหลังลังเล — บังคับให้ฟูลแบ็กห่างเซ็นเตอร์หรือดึงมิดฟิลด์ตัวรับมาช่วย เปิดพื้นที่ให้เพื่อน
นายประตูคู่แข่งหลายคนคงอยากตั้งค่าเกมให้ “วินีอยู่นอกหน้าจอ” ระหว่างเล่นจริง—แต่ฟุตบอลไม่มีปุ่มนั้นครับ (มีแต่ปุ่มถอนหายใจ)
แท็กติกกับเพื่อนร่วมเวที: เคมีที่ทำให้เสียงเชียร์ดังเป็นพิเศษ
- กับคาริม เบนเซม่า: ยุค 21/22 คือการเรียนรู้ไลน์การวิ่ง-หันไหล่ของกันและกัน จนกลายเป็นคู่หูพังแนวรับในยุโรป
- กับจู๊ด เบลลิงแฮม: ฤดูกาลประวัติศาสตร์ 23/24–24/25 การรับ-ส่งพื้นที่ระหว่างช่อง (half-space) ทำให้การวิ่งตัดเข้าในของวินีมีเป้าหมายชัดเจน—และเราได้เห็นฉากปิดเกมที่เวมบลีย์ 2024 เป็นของแถม (จู๊ดแย่งบอลก่อนป้อนให้วินีจบ)
สถิติ & ไทม์ไลน์ฉบับย่อย (แต่แน่น)
- 2000 – เกิดที่เซา โกนซาโล, ริโอเดจาเนโร
- 2017 – เดบิวต์ฟลาเมงโกชุดใหญ่, เรอัล มาดริดตกลงคว้าตัวล่วงหน้าค่าตัว ~€45–46 ล้าน
- 2018 – ย้ายถึงมาดริด, เดบิวต์ในดาร์บีเมืองหลวง
- 2022 – ยิงประตูชัยนัดชิง UCL vs ลิเวอร์พูล; ประตูเวิลด์คัพลูกแรก vs เกาหลีใต้
- 2024 – ยิงปิดเกมนัดชิง UCL vs ดอร์ทมุนด์ พามาดริดแชมป์ยุโรปสมัยที่ 15
- 2025 – อายุครบ 25: สถิติกับสโมสร 322 นัด 106 ประตู (ตามเว็บทางการ)
กลางทางมีทั้งช่วงเจ็บ ช่วงโดนประกบสอง-สาม แต่สิ่งที่ไม่เจอคือ “ช่วงถอดใจ”—นี่คือเหตุผลที่แฟนมาดริดเชื่อมือได้เสมอเมื่อเกมใหญ่เข้าดราม่าโค้งสุดท้าย
มุมทีมชาติ: บทเรียนจากความพ่ายแพ้ก็สร้างซูเปอร์สตาร์ได้
โคปา 2021 ที่แพ้ในนัดชิง หรือเวิลด์คัพ 2022 ที่หยุดที่รอบ 8 ทีม—ทั้งหมดคือบทเรียนให้วินีแข็งขึ้นทั้งกายใจ และเมื่อคุณเล่นให้ประเทศที่ “บอลคือศาสน์ศิลป์” อย่างบราซิล การรับมือความคาดหวังคือสกิลที่จำเป็นพอ ๆ กับการลากเลื้อย
บุคลิกนอกสนาม: ยิ้มเก่ง เต้นเป็น แต่จริงจังกับงาน
คาแร็กเตอร์ของวินีทำให้คนดู “เอ็นดู” ได้ง่าย—ไม่ว่าจะท่าเต้นฉลองประตู รอยยิ้มประจำตำแหน่ง หรือความกล้าแสดงออกต่อประเด็นสังคม (และใช่—ความมั่นใจของเขาแปลเป็นฟอร์มในสนามได้จริง) ฝั่งมาร์เก็ตติ้งจึงรัก…ผู้กำกับไฮไลต์ก็รัก…และแฟนบอลก็รัก
เผื่อกำลังคิดภาพ—ใช่ครับ วินีเป็นประเภท “คุณครูดุแค่ไหนก็ยังเผลอยิ้มให้” แต่พอในสนามก็คือสายโหดที่ริมเส้น
กลยุทธ์รับมือวินี (สำหรับคู่แข่ง…และนักวิเคราะห์)
- อย่าแมนมาร์กเดี่ยว—จะโดน “ล่อหลอกมุมเท้า” หลุดง่าย ควรปิดเส้นส่งกลับ-เชื่อมกับแบ็กซ้าย
- บีบพื้นที่ตัดเข้าเท้าขวา—บังคับให้ไปเส้นแล้วดวล 1v2
- เตรียมบล็อกช็อตมุมเสาไกล—เวลาตัดเข้ามุมพื้นถนัด
- อย่าเสียเหลี่ยมตอนเขาเปลี่ยนสปีด—สองก้าวแรกคือจุดตายของหลาย ๆ ฟูลแบ็ก
พูดง่ายกว่าทำ—เพราะถ้าทำง่าย ป้ายคะแนนข้างสนามคงไม่เขียนชื่อวินีบ่อยขนาดนี้
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ทำไมวินีเป็น “ของจริง” ในเกมใหญ่?
เพราะเขาเข้าใจ “จังหวะ” มากกว่าความเร็ว—รู้ว่าเมื่อไรควรค้างบอล เมื่อไรควรแทงสั้น และเมื่อไรต้องปล่อยยาวตัดเส้นเพรส ปิดท้ายด้วยความนิ่งในช็อตสำคัญ (ดูนัดชิง UCL 2022/2024 เป็นหลักฐาน)
อยู่กับเรอัล มาดริดยาวไหม?
ประกาศทางการต่อถึง ปี 2027 พร้อมค่าฉีกสัญญาระดับพันล้านยูโร—สั้น ๆ คือ “ยาว” ในมุมแผนระยะกลางของสโมสร (ต่อให้ข่าวลือจะโผล่รายสัปดาห์ก็ตาม)
สถิติโดยรวม ณ อายุ 25?
ตามเว็บไซต์สโมสร: 322 นัด 106 ประตู ให้เรอัล มาดริด—และยังเพิ่มได้อีกเยอะ (คนกำลังพีค)
ช่วงพักสายตา (กลางเรื่อง แต่อยากให้เกมยังลื่น):
กำลังอินกับฟอร์มของวินี? ถ้าอยากเพิ่มดีกรีความมันส์ของคืนวันแข่ง ลองเก็บลิงก์นี้ไว้ใกล้มือ—คลิกเพื่อเข้าใช้งาน ทางเข้า ufabet ล่าสุด—จบแมตช์ปุ๊บ กดดูต่อปั๊บ ไม่เสียอารมณ์!
เคล็ดลับดูวินีให้ “ถึงใจ” แบบสายแท็กติก
- ดู “มุมไหล่” ก่อนรับบอล: ถ้าเปิดสองทางเมื่อไร เตรียมเจอลูกแทงหรือยิงทันที
- นับ “สองก้าวมหัศจรรย์”: ช่วงเปลี่ยนสปีดจาก 0 → 100 นี่แหละที่คู่แข่งเสียสมดุล
- สังเกต “ขาไม่สัมผัสบอล”: เขามักใช้ขาอีกข้างคอนโทรลบาลานซ์ เพื่อให้ก้าวต่อไปพร้อมยิง/จ่ายทันที
- จับตา “สวิตช์อารมณ์เกม”: นาทีที่ทีมต้องปิดกล่อง เขาจะใจเย็นขึ้นกว่าปกติ—นี่คือซิกเนเจอร์ที่ทำให้เวมบลีย์ 2024 จบแบบนุ่มนวลแต่เด็ดขาด
อนาคตอันใกล้: ยุคใหม่ของ “สามประสาน” และความทะเยอทะยานระดับส่วนตัว
เมื่อทีมขยับเปลี่ยนรุ่น และมีคีย์แมนรุ่นใหม่อย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม เข้ามาเติม—วินีจะยิ่งอันตราย เพราะมีเพลย์เมกเกอร์ที่อ่านใจวิ่งของเขาได้ไว (นาที 83 ที่เวมบลีย์บอกทุกอย่างแล้ว) เป้าหมายส่วนตัว? อยู่ในโหมด “นำเกมใหญ่-ปิดงานใหญ่” ต่อเนื่อง ส่วนเป้าหมายทีม? แฟนบอลมาดริดรู้อยู่แก่ใจ—ถ้วยยุโรป “ไม่มีคำว่าพอ”
เช็คลิสต์เกียรติยศเด่น (คัดเฉพาะ “ตราประทับตัวตน”)
- ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2021/22 – แชมป์ + ผู้ทำประตูชัยนัดชิง (vs ลิเวอร์พูล)
- ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2023/24 – แชมป์ + ผู้ทำประตูปิดเกมนัดชิง (vs ดอร์ทมุนด์)
- ทีมชาติบราซิล – ประตูฟุตบอลโลก 2022 (รอบ 16 ทีม vs เกาหลีใต้)
- สัญญาเรอัล มาดริดถึงปี 2027 + ค่าฉีก €1B – หมุดหมายระยะยาวของสโมสรและตัวนักเตะเอง
สรุปส่งท้าย: ทำไม “ชีวประวัติ Vinícius Júnior” ถึงน่าอ่านซ้ำในอีก 5–10 ปีข้างหน้า
เพราะนี่คือเรื่องเล่าของนักเตะที่เอาชนะ “ภาพจำ” ของตัวเอง—จากดาวรุ่งที่หลายคนเคยตั้งคำถามเรื่องจบสกอร์ กลายเป็น ตัวตัดสินนัดชิงสองสมัย และคีย์แมนของทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดในฟุตบอลยุโรปยุคใหม่ เขาเป็นหลักฐานมีชีวิตว่า “ทักษะ + ความตั้งใจ + ความนิ่งในจังหวะใหญ่” สามารถเปลี่ยนคอมเมนต์เชิงลบให้กลายเป็นเสียงเชียร์ได้จริง และในวัย 25 เส้นกราฟยังชี้ขึ้น—ซึ่งหมายถึงไฮไลต์ใหม่ ๆ ยังรอเราอยู่อีกเพียบ
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังอยากลุ้นต่อให้ครบทุกอารมณ์ แนะนำเก็บลิงก์นี้ไว้ท้ายบุ๊กมาร์ก—ufabet เว็บพนันอันดับ 1 สมัครง่าย เล่นได้ทุกเกม—เผื่อคืนนี้วินีมีช็อต “ตัดเข้าในแล้วปิดมุม” เราจะได้เฮพร้อม ๆ กันทั้งบ้านทั้งเมือง 😄